เสียงดังจากนอกหน้าต่าง
ฉันเพ่งพิศมองออกไป
เสียงฟ้ากึกก้องคะนอง
สิ่งที่เราเรียกว่าฝนกำลังตกลงมา
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเรียกว่าฝน
แล้วฝนตกลงมาเป็นสายน้ำหรือเป็นหยดน้ำ
แล้วทำไมมีแต่ฝนตกล่ะ ไม่มีฝนขึ้นบ้างหรอ
ฉันเห็นเด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นท่ามกลางห่าฝน
เด็กที่คุ้นเคยกำลังกระโจนไปในน้ำ
ฉันอิจฉาเด็กจัง
ฉันอยากออกไปเล่นอย่างเด็กคนนั้น
แต่ฉันไม่มีแรงพอที่จะดึงพันธนาการแห่งผู้ใหญ่
ฉันอยากพุ่งทะยานไปในห่าฝน
ฉันมัวทำอะไรอยู่ในโลกแห่งความจริงใบนี้
ฝนหยุดตกแล้ว คงเหลือไว้เพียงพยับฝน
เด็กคนนั้นกำลังวิ่งเข้ามาหาฉัน
เด็กที่หน้าตาคุ้นเคยวิ่งทะลุตัวฉันไป
หายเลือนลับไปกับผนังกำแพงในห้อง
ฉันจำเด็กคนนั้นได้ในทันใด
ตัวฉันเองในอดีตที่เคยวิ่งเล่นตามท้องทุ่ง
ฉันเก็บเขาไว้ในส่วนลึกของความคิดมาแสนนาน
ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้ปลดปล่อยเขาให้ออกมาโลดแล่น
ฉับพลันห่วงโซ่แห่งความจริงหลุดออกจากตัวฉัน
ชีวิตฉันได้เดินมาถึงการเติบโตอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กปนกันในจิตใจและความคิด
...........................
..........
....
ฝนตกหนักลงมาอีกครั้ง
คราวนี้ฉันเห็นเด็กน้อยคนนั้นวิ่งเล่นอยู่เหมือนเคย
ฉันไม่รอช้าพุ่งทะยานไปท่ามกลางห่าฝนอย่างรวดเร็ว
วิ่งหยอกล้อเล่นกับตัวฉันเองในวัยเด็ก
เพื่อนร่วมงานอาจมองว่าฉันบ้าไปแล้ว
แต่สำหรับฉันกลับมีความสุขมากนับตั้งแต่ฉันเติบใหญ่มา
ฉันมีหัวใจของเด็กและผู้ใหญ่หลอมรวมกันแล้ว
ได้เวลาแล้วกับการเดินทาง
แล้วเราจะได้ผจญภัยในโลกกว้างกันเสียที
ฉันรักโลกสีฟ้าใบนี้จัง........
ฉันเพ่งพิศมองออกไป
เสียงฟ้ากึกก้องคะนอง
สิ่งที่เราเรียกว่าฝนกำลังตกลงมา
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเรียกว่าฝน
แล้วฝนตกลงมาเป็นสายน้ำหรือเป็นหยดน้ำ
แล้วทำไมมีแต่ฝนตกล่ะ ไม่มีฝนขึ้นบ้างหรอ
ฉันเห็นเด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นท่ามกลางห่าฝน
เด็กที่คุ้นเคยกำลังกระโจนไปในน้ำ
ฉันอิจฉาเด็กจัง
ฉันอยากออกไปเล่นอย่างเด็กคนนั้น
แต่ฉันไม่มีแรงพอที่จะดึงพันธนาการแห่งผู้ใหญ่
ฉันอยากพุ่งทะยานไปในห่าฝน
ฉันมัวทำอะไรอยู่ในโลกแห่งความจริงใบนี้
ฝนหยุดตกแล้ว คงเหลือไว้เพียงพยับฝน
เด็กคนนั้นกำลังวิ่งเข้ามาหาฉัน
เด็กที่หน้าตาคุ้นเคยวิ่งทะลุตัวฉันไป
หายเลือนลับไปกับผนังกำแพงในห้อง
ฉันจำเด็กคนนั้นได้ในทันใด
ตัวฉันเองในอดีตที่เคยวิ่งเล่นตามท้องทุ่ง
ฉันเก็บเขาไว้ในส่วนลึกของความคิดมาแสนนาน
ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะได้ปลดปล่อยเขาให้ออกมาโลดแล่น
ฉับพลันห่วงโซ่แห่งความจริงหลุดออกจากตัวฉัน
ชีวิตฉันได้เดินมาถึงการเติบโตอีกขั้นหนึ่งแล้ว
ชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กปนกันในจิตใจและความคิด
...........................
..........
....
ฝนตกหนักลงมาอีกครั้ง
คราวนี้ฉันเห็นเด็กน้อยคนนั้นวิ่งเล่นอยู่เหมือนเคย
ฉันไม่รอช้าพุ่งทะยานไปท่ามกลางห่าฝนอย่างรวดเร็ว
วิ่งหยอกล้อเล่นกับตัวฉันเองในวัยเด็ก
เพื่อนร่วมงานอาจมองว่าฉันบ้าไปแล้ว
แต่สำหรับฉันกลับมีความสุขมากนับตั้งแต่ฉันเติบใหญ่มา
ฉันมีหัวใจของเด็กและผู้ใหญ่หลอมรวมกันแล้ว
ได้เวลาแล้วกับการเดินทาง
แล้วเราจะได้ผจญภัยในโลกกว้างกันเสียที
ฉันรักโลกสีฟ้าใบนี้จัง........
No comments:
Post a Comment